18 มีนาคม 2562
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA โดยสถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม ชี้การใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภคมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากความต้องการน้ำมีปริมาณเพิ่มขึ้น ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ และยังพบว่าคุณภาพน้ำมีแนวโน้มเสื่อมโทรมลงจากกิจกรรมต่างๆ จึงจำเป็นที่จะต้องมีการรับมือและการบริหารจัดการเพื่อเตรียมแก้ไขปัญหาน้ำที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือสมัยใหม่เพื่อป้องกันการขาดแคลนในอนาคต ทั้งนี้ หนึ่งในนวัตกรรมที่สามารถลดอุปสรรคดังกล่าวและมีแนวโน้มการเติบโตเป็นอย่างสูง คือ การแปลงอากาศเป็นน้ำด้วยเครื่องผลิตน้ำจากอากาศ หรือ Atmospheric Water Generation : AWG ซึ่งเป็นการดึงน้ำจากความชื้นในอากาศมาผลิตเป็นน้ำจืดที่สามารถอุปโภคบริโภค ช่วยลดภาระการใช้น้ำจากแหล่งน้ำ และสามารถใช้ในกิจกรรมต่างๆ อาทิ ระบบชลประทานเพื่อการเพาะปลูก การใช้ในที่พักตามเขตเมืองและชนบท โดยคาดว่านวัตกรรม AWG จะมีโอกาสเติบโตสูงใน 3 ตลาด ได้แก่ ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปยุโรป และเอเชียแปซิฟิก และในปี 2022 จะมีมูลค่าทางการตลาดสูงถึง 1.1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และคาดการณ์ว่าเครื่องผลิตน้ำจากอากาศจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณน้ำจืดสำรองที่ลดลงและจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น โดยอัตราการเติบโตของตลาดจะอยู่ที่ 9.5% ต่อปี แนวโน้มการใช้เทคโนโลยี AWG ระหว่างปี 2019 - 2022 คาดว่าจะมีการใช้เพิ่มขึ้นอย่างแพร่หลาย โดย ส่วนใหญ่จะถูกนำไปเป็นส่วนประกอบในชลประทานขนาดใหญ่ของพื้นที่เพาะปลูกในเขตแห้งแล้งและกึ่งแห้งแล้ง และในปี 2020 จะมีการใช้ AWG ขนาดใหญ่ในที่พักตามเมืองเล็กๆ และชุมชน ซึ่งจะทำให้ไม่มีมลพิษ มีน้ำสะอาดเพื่ออุปโภคบริโภค และช่วยลดการใช้น้ำตามแหล่งธรรมชาติ ขณะที่ปี 2021 คาดว่าจะมีการติดตั้งระบบ AWG ในรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ซึ่งจะช่วยสร้างน้ำจืดได้ตามระยะการเดินทางของรถ และคาดว่าในปี 2022 คาดว่าน้ำที่ผลิตได้คุณภาพตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) จะมีรายได้ในตลาดโลกอยู่ที่ 1.1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

