17 กันยายน 2562
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับ The Change Initiative, บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) จัดงานประชุมนานาชาติ “Asia-Pacific Futures Network Conference” (AFPN) ครั้งที่ 5 ภายใต้ธีม ASEAN 2030 ณ Ananda UrbanTech Campus
การประชุมนี้เป็นการรวมตัวกันของนักอนาคตศาสตร์ นักคิด และตัวแทนนักนโยบายจากนานาประเทศ เพื่อสำรวจแนวโน้มและประเด็นความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยและหน่วยงานชั้นนำด้านอนาคตศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียในการเข้าร่วมเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางและเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ต่อการออกแบบภาพอนาคตที่นำไปสู่ยุทธศาสตร์และนโยบายที่ยั่งยืน ปีนี้มุ่งเน้นที่ภาพอนาคตของอาเซียนในปี 2573 ทั้งในประเด็นด้านวัฒนธรรม เทคโนโลยี และความปลอดภัยในอาเซียน และเอเชียแปซิฟิก


ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า “NIA ร่วมจัดงานนี้เป็นปีที่ 2 แล้ว การมองอนาคตเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาและเตรียมความพร้อมสำหรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต สำหรับประเทศชั้นนำอย่างสิงคโปร์ ฟินแลนด์ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เกาหลี รวมถึงมาเลเซีย ต่างให้ความสำคัญต่อการนำการมองอนาคตมาเป็นเครื่องมือในการกำหนดนโยบายการพัฒนาระยะยาว ประกอบกับปัจจุบันองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนหลายแห่งในประเทศไทยต่างให้ความสนใจกับการมองอนาคตและฝึกฝนทักษะให้กับนักยุทธศาสตร์และนักนโยบายในการนำการมองอนาคตมาปรับใช้ ด้วยเหตุนี้ NIA จึงได้จัดตั้งสถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม (Innovation Foresight Institute : IFI) โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาระบบนิเวศด้านการมองอนาคตในประเทศไทยให้เข้มแข็ง รวมถึงนำการมองอนาคตมาใช้ระบุโอกาสและความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เพื่อช่วยในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์และการจัดการระบบนิเวศนนวัตกรรมของประเทศ การร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมนานาชาติในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับนักอนาคตศาสตร์ไทยที่จะได้ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เชี่ยวชาญด้านการมองอนาคตจากนานาประเทศ สำหรับการจัดประชุม Asia-Pacific Futures Network Conference” (AFPN) ในวันที่ 17-18 กันยายน 2562 มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 120 คน จากกว่า 20 ประเทศ ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญด้านการมองอนาคตกว่า 25 คน จากอาเชียนและเอเซียแปซิฟิก นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ Chor Pharn Lee และ Wee Shann Lam จากสิงคโปร์ รวมถึงผู้นำทางความคิดระดับโลก อาทิ Dr. Sohail Inayatullah จากออสเตรเลีย มาพูดคุยและแบ่งปันประสบการณ์ตลอดสองวัน”
Jost Wagner กรรมการผู้จัดการ The Change Initiative กล่าวว่า “ปัจจุบันหลายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนกำลังเผชิญกับข้อจำกัดในการวางแผนกลยุทธ์และนโยบาย ด้วยความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี สังคมและสภาวะแวดล้อมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดด ดังนั้น หากต้องการอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับเราและคนรุ่นต่อๆ ไป การมองอนาคต จะเป็นหนึ่งในทักษะการเป็นผู้นำที่สำคัญ การมองอนาคตเป็นเครื่องมือช่วยในการวางแผนกลยุทธ์และนโยบายเพื่อให้เราสามารถออกแบบภาพอนาคตที่คาดหวัง รวมถึงคาดการณ์อนาคตที่ไม่พึงปรารถนาเพื่อเตรียมการป้องกัน ในช่วงที่ผ่านมา องค์กรนานาชาติชั้นนำอย่าง ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) และสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ต่างหันมาใช้การมองอนาคตเป็นเครื่องมือในการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ มากขึ้น เพื่อนำการมองอนาคตไปช่วยผู้กำหนดนโยบายให้ได้ไตร่ตรองกับการออกนโยบาย และสามารถพิจารณาตัดสินใจตัวเลือกนโยบายที่เหมาะสมที่จะนำไปสู่การพัฒนาภาพอนาคตที่ต้องการได้”
ลอยด์ วัฒนโฆวรุณ กรรมการบริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “ถึงแม้ การมองอนาคต จะเป็นเรื่องใหม่สำหรับอนันดา แต่ด้วยวิสัยทัศน์และนโยบายของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรม และบทบาทในการสนับสนุนระบบนิเวศสตาร์ทอัพของประเทศไทย อนันดาจึงมองว่าการมองอนาคตเป็นสิ่งที่สามารถนำมาสนับสนุนแนวทางการดำเนินงานของเราได้เป็นอย่างดี เพราะในมุมหนึ่ง “นวัตกรรม” ถือเป็นสิ่งขับเคลื่อนให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในอนาคต ขณะที่อีกมุมหนึ่ง “นวัตกรรม” ถือเป็นเครื่องในการแก้ปัญหาภาพอนาคตที่ไม่พึงปรารถนา ภาพอนาคตที่ได้รับการพัฒนาจากกระบวนการมองอนาคตจึงเป็นสิ่งที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการมุ่งสู่วิสัยทัศน์และนโยบายของบริษัท ในครั้งนี้จึงถือเป็นเกียรติและเป็นโอกาสอันดีที่อนันดาได้มีส่วนสนับสนุนกิจกรรมดีๆ ในครั้งนี้ ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า UrbanTech Campus ของเราจะเป็นสถานที่ที่สร้าง แรงบันดาลใจและสร้างบรรยากาศที่ดีสำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านการมองอนาคตจากนานาชาติ”

